สักคิ้ว มีกี่แบบอะไรบ้าง ??
สักคิ้วมี หลายแบบหลาย ประเภทมาก ชื่อเรียกก็อาจจะแตกต่างกันออกไปได้แต่ละร้านอาจขึ้นอยู่กับ เทคนิคการสัก การตลาด ความชอบ ฯลฯ
คิ้วลายเส้น เรียกได้ :>> คิ้วลายเส้น, คิ้ว 6 มิติ , คิ้ว6D , 6DMicroblading ,คื้วลายเส้นเสมือนขนคิ้วจริง
คิ้วสไลด์ เรียกได้ :>> คิ้วสไลด์ ,คิ้วสีฝุ่น ,คิ้วเฉดดิ้ง ,ฝังสีคิ้ว , เพ้นท์คิ้ว เป็นต้น
เอาเป็นว่าทางร้านขอเลือกแบบหลักที่นิยมกันในยุคสมัยนี้ และทางร้านขอเรียกคิ้วทั้งสองแบบนี้
ว่า
1. สักคิ้วลายเส้น Microblading กับ
2. สักคิ้วสไลด์ Shading powder
แล้ว???
สักคิ้วลายเส้น เป็นยังไง???
ย้อนกลับไป คิ้วลายเส้นเกิดหลังคิ้วสไลด์ แต่เพิ่งมาเป็นที่นิยมเมื่อปี 2017 และเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในปีนี้ 2019
คิดว่าสาเหตุที่คิ้วลายเส้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจาก ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ และด้วยเทคนิคการสักเลียนแบบเส้นขนคิ้วจริง
สักเป็นเส้นๆ ทีละเส้น เหมือนไม่ได้สักคิ้ว เมื่อคิ้วลอกแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ เป็นทิวขนผสมกับเส้นขนจริงแล้วจะดูเนียนธรรมชาติมากๆ
ผลลัพท์ที่ได้ เหมาะสำหรับ ลูกค้าที่ต้องการสักคิ้วที่เป็นธรรมชาติสักตามแนวเส้นขนจริง "ไม่หลอกตา"
คิ้ว6D ลายเส้น (Microblading)
หลังสักเสร็จทันที
v
v
คิ้ว6D ลายเส้น (Microblading)
หลังลอก ลอกแล้วเหลือเพียงเเค่ 70-80% เท่านั้น ทั้งนี้ผลลัพท์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
v
v
แล้วการ สักคิ้วสไลด์ ล่ะ
สำหรับคิ้วสไลด์ จะเป็นคิ้วที่เราเห็นกันมาตั้งแต่สมัยจำความได้ รุ่นแม่ๆ ป้าๆ อาม่า นิยมกันมาก ด้วยความน่ากลัวของคิ้วสไลด์สมัยก่อนคือมันติดดี ติดเข้มฝังลึกอยู่ใต้ชั้นผิวได้นานซะเหลือเกิน แล้วมันเปลี่ยนสีกลายเป็นม่วง เขียว ดำด้านบ้างแหละ เลยทำให้ดูเป็นปลิง เป็นปื้นน ไม่สวยงามเท่าไหร่ ทำให้หลายคนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องการสักคิ้วกลัวเรื่องการสักไปเลย แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ความทันสมัยของวงการสักคิ้วพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ สีที่ใช้สักกับอุปกรณ์รวมถึงการเรียนรู้ฝีมือของช่างพัฒนาตามขึ้นไปทำให้งานของร้านที่มีการพัฒนาตัวเอง เกิดผลลัพท์ที่ดีขึ้นต่างจากเมื่อก่อนมาก
คิ้วสไลด์จะเหมาะกับลูกค้าที่เน้นความสะดวกสะบายแต่งหน้าง่ายตื่นมามีคิ้วเลยไล่เฉดสีหางคิ้วเข้มหัวคิ้วอ่อน ลอกแล้วจะเหมือนเราปัดคิ้วด้วยฝุ่นสีหลังลอกจะเหลือเพียง 30-40% เท่านั้น
สักคิ้วสไลด์ (Shading powder)
หลังสักเสร็จทันที
v
v
คิ้ว6D ลายเส้น (Microblading)
หลังลอก ลอกแล้วเหลือเพียงเเค่ 30-40% เท่านั้น ทั้งนี้ผลลัพท์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ขั้นตอนและวิธีการดูแลหลังสักปาก
การดูแลหลังสักปากอย่างถูกวิธี
รักษาความสะอาดห้ามโดนและสัมผัสริมฝีปากหลังสักเสร็จทันที
ทาครีมบำรุงหลังสักวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน และก่อนนอน เพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปากและฆ่าเชื้อโรค ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดอาการปากแห้งและอาการคัน
ไม่แกะ ดึง ลอกผิวเอง เพราะจะทำให้สีหลุดล่อนและไม่สม่ำเสมอกัน
ไม่ทาลิปติดทับในช่วง 1 - 2 สัปดาห์แรก ลิปติกบางยี่ห้อมีสารปรอทเคลือบผิวอาจก่อให้เกิดอาการแพ้และเช็ดทำความสะอาดยาก
ไม่ทานอาหาร เผ็ด - ร้อน ของแสลงและของหมักดองเด็ดขาด 7 วันแรกหลังสัก เนื่องจากจะทำให้แผลอักเสบและติดเชื้อได้
ใช้หลอดดื่มน้ำ และใช้ช้อนขนาดเล็กรับประทานอาหารเพื่อความสะดวกในช่วงแรกๆ
แนะนำใช้แปรงสีฝัน - ยาสีฟันของเด็ก งดใช้น้ำยาบ้วนปากที่ผสมเมลทอล / สารฟอกฟันขาว เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองผิว
ทำความสะอาดผิวปากและเช็ดให้แห้งก่อนทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ
หลังจากปากลอกแล้ว
เดือนแรก - สีจะคล้ำลงนิดหน่อย (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวลูกค้าแต่ละบุคคล)
เดือนที่ 2 - หลังผิวปากลอกแล้วจะค่อยๆดูสว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เดือนที่ 3 - สีปากขึ้นเต็มที่ ผิวเเข็งแรง และ สามารถสักเพิ่มได้หากต้องการ